การปฏิวัติของฝ่ายบารอนในปี ค.ศ. 1264: การต่อสู้เพื่อสิทธิและเสรีภาพของขุนนางอังกฤษ

 การปฏิวัติของฝ่ายบารอนในปี ค.ศ. 1264: การต่อสู้เพื่อสิทธิและเสรีภาพของขุนนางอังกฤษ

ยุคกลางตอนปลายของอังกฤษเป็นยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงอย่างลึกซึ้ง การเติบโตขึ้นของอำนาจกษัตริย์, การขยายตัวของระบบศักดินา และความไม่สงบทางสังคมทำให้เกิดความตึงเครียดระหว่างชนชั้นสูงและพระมหากษัตริย์

ในช่วงทศวรรษที่ 1260 ฝ่ายบารอน (ขุนนาง) ของอังกฤษเริ่มแสดงความไม่พอใจอย่างรุนแรงต่อการปกครองของพระเจ้าเฮนรีที่ 3 การกดขี่ทางภาษี, การละเมิดสิทธิเก่าแก่ของขุนนาง และการแทรกแซงในสิทธิของโบสถ์ทำให้เกิดความโกรธแค้นและความต้องการปฏิรูปอย่างรวดเร็ว

การปฏิวัติของฝ่ายบารอนในปี ค.ศ. 1264 ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในประวัติศาสตร์อังกฤษ ยิ่งไปกว่านั้น เหตุการณ์นี้ยังเป็นตัวอย่างที่โดดเด่นของการต่อสู้เพื่อสิทธิและเสรีภาพของชนชั้นสูง

สาเหตุของการปฏิวัติ:

การปฏิวัติเกิดจากปัจจัยหลายประการที่ซับซ้อน:

  • ภาษีที่เพิ่มขึ้น: พระเจ้าเฮนรีที่ 3 ประสบปัญหาทางการเงินอย่างหนัก การรบครั้งสุดท้ายกับฝรั่งเศสทำให้ทรัพย์สินของมงกุฎลดลงอย่างมาก และพระองค์จึงพยายามกดขี่ประชาชนด้วยการเก็บภาษีที่สูงขึ้น
  • การละเมิดสิทธิ: พระเจ้าเฮนรีที่ 3 ได้ละเมิดสิทธิเก่าแก่ของขุนนาง อาทิเช่น การเรียกร้องสวามิภักดิ์โดยไม่คำนึงถึงกฎหมายและธรรมเนียม, การบังคับใช้กฎหมายอย่างเลือกปฏิบัติ และการแทรกแซงในการปกครองตนเองของขุนนาง
  • ความไร้เสถียรภาพทางการเมือง:

ยุโรปในช่วงเวลานั้นเต็มไปด้วยความขัดแย้งระหว่างพระมหากษัตริย์และขุนนาง การปฏิวัติฝ่ายบารอนในอังกฤษเป็นส่วนหนึ่งของกระแสการต่อต้านการปกครอง centralization ของพระมหากษัตริย์

การดำเนินการของฝ่ายบารอน:

ฝ่ายบารอนได้รวมตัวกันในช่วงต้นปี ค.ศ. 1264 และเริ่มก่อความไม่สงบในแคว้นต่างๆทั่วอังกฤษ พวกเขาเรียกร้องให้พระเจ้าเฮนรีที่ 3 ปฏิบัติตาม “ธรรมนูญ liberties” (Magna Carta) ที่ลงนามเมื่อปี ค.ศ. 1215

ฝ่ายบารอนได้จัดตั้งกองกำลังติดอาวุธและเริ่มรุกคืบเข้ามาใกล้กรุงลอนดอน พระเจ้าเฮนรีที่ 3 ตอบโต้ด้วยการระดมทหารของพระองค์เอง การสู้รบครั้งสำคัญเกิดขึ้นเมื่อเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 1264 ณ สงคราม Lewes

ผลจากสงคราม Lewes:

ฝ่ายบารอนชนะในการรบ Lewes และจับกุมพระเจ้าเฮนรีที่ 3 ได้

หลังจากนั้น ฝ่ายบารอนก็สถาปนา “คณะผู้สำเร็จราชการ” (Provisional Government) ขึ้นมา

ข้อตกลงและผลลัพธ์:

หลังจากการปฏิวัติฝ่ายบารอนได้ลงนามใน “Magna Carta Revision” (ฉบับแก้ไข Magna Carta) ซึ่งเป็นเอกสารที่รับรองสิทธิและเสรีภาพของขุนนาง สิทธิเหล่านี้รวมถึง:

  • สิทธิในการมีสภา:

ขุนนางสามารถเข้าร่วมสภาเพื่อให้คำปรึกษาแก่พระมหากษัตริย์

  • สิทธิในการถูกตัดสินโดยศาล: ขุนนางจะถูกพิจารณาคดีในศาลที่เป็นธรรม ไม่ใช่ตามอำเภอใจของพระมหากษัตริย์

  • สิทธิในการถือครองทรัพย์สิน:

ขุนนางมีสิทธิ์ในการถือครองและสืบทอดทรัพย์สิน การปฏิวัติของฝ่ายบารอนในปี ค.ศ. 1264 มีผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อประวัติศาสตร์อังกฤษ:

  • ความเสถียรทางการเมือง: การปฏิวัติทำให้เกิดความไม่มั่นคงทางการเมืองและความขัดแย้งภายในระหว่างพระมหากษัตริย์และขุนนาง

  • การพัฒนาระบบกฎหมาย: Magna Carta Revision เป็นรากฐานของระบบกฎหมายอังกฤษ และส่งอิทธิพลไปทั่วโลก

  • การเติบโตของรัฐสภา: การปฏิวัตินี้เป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนารัฐสภาอังกฤษ, ซึ่งกลายมาเป็นสถาบันที่ทรงพลังที่สุดในประวัติศาสตร์

ผลกระทบ
การเสริมสร้างอำนาจของขุนนาง
การกำหนดบทบาทของพระมหากษัตริย์
การเริ่มต้นกระบวนการทางประชาธิปไตย

ในที่สุด พระเจ้าเฮนรีที่ 3 ก็ได้รับอิสรภาพและกลับมาครองราชบัลลังก์อีกครั้ง แต่การปฏิวัติของฝ่ายบารอนได้สร้างรอยแยกสำคัญในสังคมอังกฤษ การต่อสู้เพื่อสิทธิและเสรีภาพของขุนนางยังคงดำเนินต่อไป และนำไปสู่การพัฒนาระบบการปกครองที่เป็นประชาธิปไตยมากขึ้นในประเทศอังกฤษ